การติดตามผลและการปรับปรุงของฝ่ายขายกับการประเมิน360 ในกระบวนการพัฒนาพนักงานขายนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับ การประเมิน 360 องศา ซึ่งให้ข้อมูลฟีดแบ็คจากหลายมุมมอง (ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และการประเมินตนเอง) ทำให้สามารถเห็นภาพรวม และรายละเอียดที่ชัดเจนของจุดแข็ง และจุดที่ต้องพัฒนา ซึ่งเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการปรับปรุงการทำงานของพนักงานขายให้ดียิ่งขึ้น
1. การติดตามความก้าวหน้า
- กำหนดระยะเวลาการติดตาม ตั้งช่วงเวลาที่ชัดเจนในการติดตามผล เช่น ทุก 1-3 เดือน หลังจากการประเมิน
- การประชุมติดตาม จัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าในเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเน้นที่ข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ
2. การประเมินผลการพัฒนา
- ใช้ KPI ติดตามตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง เช่น ยอดขายที่เพิ่มขึ้น อัตราการปิดการขาย หรือความพึงพอใจของลูกค้า
- ฟีดแบ็กจากผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน รวบรวมความคิดเห็นจากคนรอบข้างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม และประสิทธิภาพของพนักงาน
3. ปรับปรุงแผนพัฒนา
- ประเมินผลการพัฒนา พิจารณาว่าแผนพัฒนาที่กำหนดไว้มีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยดูจากผลลัพธ์ที่ได้
- ปรับเปลี่ยนเป้าหมายหรือกิจกรรม หากพบว่ามีส่วนที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ควรปรับเปลี่ยนแผนหรือกิจกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ และสภาพแวดล้อม
4. การสื่อสารผลลัพธ์
- รายงานผลการติดตาม จัดทำรายงานเพื่อสรุปผลการติดตาม และการประเมิน ซึ่งควรรวมถึงความก้าวหน้า ข้อเสนอแนะ และแผนการปรับปรุง
- แชร์กับทีม สื่อสารผลลัพธ์ให้กับทีมเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้เกี่ยวกับความสำเร็จ และพื้นที่ที่ต้องการการพัฒนา
5. การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
- ให้คำปรึกษาและการสนับสนุน เสนอคำปรึกษา และการสนับสนุนให้กับพนักงานในช่วงเวลาที่ติดตามผล
- สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ ส่งเสริมให้พนักงานมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้จากกันและกัน
6. การสร้างวัฒนธรรมการพัฒนา
- ส่งเสริมการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงตนเอง
- ยกย่องความสำเร็จ ยกย่องและให้รางวัลสำหรับความสำเร็จในกระบวนการพัฒนา เพื่อสร้างแรงจูงใจ
ขั้นตอน การติดตามผลและการปรับปรุงของฝ่ายขายกับการประเมิน360
การตั้งเป้าหมายจากผลการประเมิน 360 องศา หลังจากได้รับผลการประเมิน 360 องศาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตั้ง เป้าหมายการพัฒนา โดยการใช้ข้อมูลที่ได้จากหลายมุมมองมาช่วยวางแผนในการพัฒนาตัวเอง ตัวอย่างเช่น หากผลประเมินบ่งชี้ว่าพนักงานขายมีทักษะการเจรจาต่อรองดี แต่ขาดทักษะในการทำงานเป็นทีม หรือมีปัญหาการจัดการเวลาหลังการขาย เป็นต้น
ตัวอย่าง:
หากการประเมิน 360 องศาแสดงให้เห็นว่า พนักงานขายมีความสามารถสูงในการปิดการขาย (จุดแข็ง) แต่มีปัญหาการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน และการทำงานร่วมกันในทีม (จุดที่ต้องพัฒนา) พนักงานสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ เช่น การพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม และการสื่อสารภายในทีม
การกำหนดแผนการพัฒนาเฉพาะตัว (Personal Development Plan: PDP) หลังจากตั้งเป้าหมายแล้ว ต้องทำการ ออกแบบแผนการพัฒนา ที่ชัดเจน โดยแผนนี้จะต้องบอกถึงขั้นตอนการพัฒนา และระยะเวลาในการดำเนินการ เพื่อให้พนักงานขายสามารถปรับปรุงจุดที่ต้องการได้อย่างมีทิศทาง และไม่ลืมจุดแข็งที่ควรจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
- ตัวอย่าง:
- ทักษะการทำงานเป็นทีม:
แผนการพัฒนานี้อาจรวมถึงการฝึกอบรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความร่วมมือในทีม การจัดการประชุมทีมประจำสัปดาห์ เพื่อรับฟีดแบ็คจากเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน - การพัฒนาการจัดการเวลา:
การใช้เครื่องมือในการจัดการเวลา เช่น แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการตารางงาน และตั้งเป้าหมายในการตอบกลับลูกค้าและการติดตามลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ทักษะการทำงานเป็นทีม:
การติดตามผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การติดตามผลการพัฒนาเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวัดความก้าวหน้าของพนักงาน และการปรับแผนหากมีการเปลี่ยนแปลง หรือหากพนักงานไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระยะเวลาที่กำหนด การติดตามผลนี้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การประเมินผลด้วยตนเอง (self-assessment), ฟีดแบ็คจากผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน, หรือการใช้การประเมิน 360 องศาครั้งถัดไปเพื่อวัดความก้าวหน้า
- ตัวอย่าง:
หากพนักงานขายได้รับการฝึกอบรมการทำงานเป็นทีม และใช้เครื่องมือจัดการเวลาในช่วง 3 เดือนแรก การติดตามผลจะต้องมีการประเมินว่า:- พนักงานสามารถสื่อสารกับทีมได้ดีขึ้นหรือไม่
- มีการพัฒนาทักษะในการจัดการเวลาในการติดต่อกับลูกค้า
- ฟีดแบ็คจากเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาบ่งชี้ว่าพนักงานมีการพัฒนาในด้านใดบ้าง
การปรับปรุงแผนพัฒนา (Adjustment) หากพบว่าแผนการพัฒนาไม่ได้ผลตามที่คาดหวังหรือยังไม่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาได้ครบถ้วน จำเป็นต้องทำการ ปรับแผนการพัฒนา ให้เหมาะสมกับความต้องการหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ในบางกรณี อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการฝึกอบรมหรือเครื่องมือที่ใช้
- ตัวอย่าง:
หากผลการติดตามแสดงให้เห็นว่า พนักงานยังคงมีปัญหากับการสื่อสารในทีมแม้จะฝึกอบรมแล้ว อาจจำเป็นต้องมีการจัดกิจกรรมกลุ่มหรือการมีโค้ชส่วนตัวเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถปรับปรุงการทำงานร่วมกับทีมได้ดียิ่งขึ้น
การใช้การประเมิน 360 องศาในการประเมินผลระยะยาว การใช้ การประเมิน 360 องศาในระยะยาว จะช่วยให้สามารถมองเห็นการพัฒนาของพนักงานในระยะยาว โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในทักษะที่พัฒนา และการปรับปรุงการทำงานร่วมกับทีม หรือการจัดการเวลา การประเมินนี้สามารถทำได้ทุก 6 เดือนหรือทุกปี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ขององค์กร
- ตัวอย่าง:
การใช้การประเมิน 360 องศาครั้งถัดไปหลังจากที่พนักงานได้รับการฝึกอบรมหรือมีการปรับปรุงแผนการพัฒนา จะช่วยให้เห็นภาพรวมว่าพนักงานมีความก้าวหน้าในการพัฒนาในด้านต่างๆ หรือไม่ และช่วยให้การพัฒนาในอนาคตเป็นไปตามแผนที่วางไว้
การติดตามผลและการปรับปรุงของฝ่ายขายจากการประเมิน 360 องศา
การติดตามผลและการปรับปรุงของพนักงานขายจากการประเมิน 360 องศาเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประเมิน 360 องศาช่วยให้เห็นจุดแข็ง และจุดที่ต้องปรับปรุงจากมุมมองที่หลากหลาย ทำให้สามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และออกแบบแผนพัฒนาที่เหมาะสมได้ หลังจากนั้นการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการปรับแผนพัฒนาจะช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาได้ตามเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับทั้งตนเองและองค์กร
สนใจทดลองใช้งานโปรแกรมประเมินออนไลน์ EsteeMATE ติดต่อได้ที่นี่