Year: 2025

AI Recruitment: การปฏิวัติการสรรหาบุคลากรด้วยปัญญาประดิษฐ์

AI Recruitment: การปฏิวัติการสรรหาบุคลากรด้วยปัญญาประดิษฐ์ ในโลกที่การทำงานกำลังได้รับการปฏิรูปจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราต้องยอมรับว่าการสรรหาบุคลากรด้วย AI คือหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลง จากการใช้แรงงานเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อทำการสัมภาษณ์แบบดั้งเดิม สู่การใช้ระบบอัตโนมัติในการคัดกรองประวัติและจัดการกระบวนการสรรหา AI ได้เปิดโอกาสใหม่สำหรับ HR ในยุคปัจจุบันที่เน้นความเป็นมนุษย์มากขึ้น ปัญหาและความท้าทายในปัจจุบัน จากจุดเริ่มต้นที่ไทยยังคงพึ่งพาการสรรหาด้วยกลยุทธ์แบบเดิม สู่การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่มาแบบไม่หยุดนิ่ง HR ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากตลาดแรงงานที่มีความกดดันมากขึ้น การแข่งขันเพื่อหาแรงงานที่มีทักษะสูงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ HR ต้องมองหาวิธีใหม่ๆ ในการเราแรงและความสามารถที่เหมาะสมต่อองค์กร ปฏิวัติการสรรหาด้วย AI การใช้ AI ในการสรรหาเข้าแก้ปัญหาด้วยการสร้างฟังก์ชันในการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกต้อง และนำเสนอการ วิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ตัวอย่างเช่น การใช้ Machine Learning ในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครเพื่อลดปัญหาการหาผู้สมัครที่ไม่ตรงความต้องการ อีกทั้งยังช่วยในการประเมินและให้คะแนนผู้สมัครโดยไม่ขึ้นกับลักษณะภายนอก ซึ่งเหมาะสมสำหรับการสร้างความหลากหลายในสถานที่ทำงาน ตัวอย่างในไทย เช่น

Read More

HR Digital Transformation: ปรับกระบวนการ HR ให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงและการทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แผนก HR ไม่สามารถพึ่งพาระบบเอกสารหรือกระบวนการแบบ Manual ได้อีกต่อไป การเปลี่ยนผ่านสู่ HR ดิจิทัล ไม่ใช่เพียงแค่การใช้ซอฟต์แวร์ แต่คือการปรับวิธีคิด กระบวนการ และเครื่องมือ เพื่อให้การบริหารทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานและองค์กรได้อย่างทันเวลา เทรนด์ HR Tech ปีปัจจุบัน (Cloud HR, AI, Automation) ประโยชน์ต่อองค์กรและพนักงาน ขั้นตอนเริ่มต้นสำหรับ HR ที่อยากทำ Digital Transformation แนวทางการเลือกแพลตฟอร์ม HR ที่เหมาะสม การลงทุนใน HR ดิจิทัล ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการสร้างรากฐานให้ HR มีบทบาทเชิงกลยุทธ์ สร้างประสิทธิภาพ

Read More

DISC Profile แบบไหนที่เหมาะกับคนทำงาน HR?

หลายคนมองว่างาน HR เป็นงานที่ต้อง “ใจเย็น รักคน” เท่านั้นถึงจะทำได้ดี แต่จริง ๆ แล้ว สายงาน HR มีหลายบทบาท แต่ละบทบาทต้องการคุณลักษณะต่างกัน การเข้าใจ DISC Profile จึงเป็นประโยชน์ในการพิจารณาความเหมาะสมของบุคลิกกับบทบาท HR แต่ละแบบ บทความนี้จะพาไปดูว่า DISC แต่ละประเภทเหมาะกับสาย HR แบบไหน พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากพัฒนาตัวเองให้ตอบโจทย์งาน HR ได้รอบด้านยิ่งขึ้น DISC Profile คืออะไร? DISC แบ่งบุคลิกคนออกเป็น 4 แบบหลัก ๆ: แต่ละคนจะมีลักษณะผสมของหลายประเภท แต่จะมี 1-2 แบบที่โดดเด่นที่สุด DISC

Read More

พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในความสัมพันธ์ทางอาชีพ HR กับการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน

พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในความสัมพันธ์ทางอาชีพ (Career-driven behaviors) เป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงขับเคลื่อนในการบรรลุเป้าหมายในอาชีพ และสามารถเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานในองค์กร ซึ่งในบริบทของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พนักงานสามารถเติบโตได้ตามความปรารถนาในเส้นทางอาชีพของตนเอง ในแง่ของ HR การสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจในการทำงาน ดังนั้น พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในความสัมพันธ์ทางอาชีพจะต้องถูกออกแบบและนำมาใช้ในกระบวนการต่างๆ เช่น การพัฒนาอาชีพ การฝึกอบรม การประเมินผลการทำงาน และการสนับสนุนทางด้านอาชีพ เพื่อให้พนักงานสามารถมองเห็นโอกาสในการเติบโตและก้าวหน้าตามความต้องการของตัวเอง พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในความสัมพันธ์ทางอาชีพประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่สำคัญ 1. การพัฒนาอาชีพและการตั้งเป้าหมาย การตั้งเป้าหมายในอาชีพเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างแรงบันดาลใจ เพราะเมื่อพนักงานมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น พวกเขาจะมีความพยายามในการพัฒนาทักษะและขยายขีดความสามารถของตนเองเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ 2. การพัฒนาและการฝึกอบรมเพื่อเสริมทักษะ พนักงานมักจะมีแรงบันดาลใจมากขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะในเรื่องของทักษะที่เกี่ยวข้องกับอาชีพในอนาคต ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการอบรมทักษะเฉพาะด้าน เช่น ทักษะการบริหารเวลา ทักษะการตัดสินใจ หรือการฝึกอบรมทางด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในอนาคต 3. การสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและการสนับสนุน การสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้พนักงานรู้สึกว่าสามารถเติบโตได้ในองค์กรจะช่วยขับเคลื่อนพฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาในอาชีพได้ โดย

Read More

Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากร วิธีการเลือกพนักงานที่มีแรงจูงใจสูง

Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากร: วิธีการเลือกพนักงานที่มีแรงจูงใจสูง Desire Behavior คือ การศึกษาความปรารถนา (Desire) และแรงจูงใจ (Motivation) ที่ผลักดันพนักงานในการทำงาน การเข้าใจ Desire Behavior ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติและความต้องการที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเลือกพนักงานที่มี แรงจูงใจสูง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีความมุ่งมั่นในการทำงาน และสามารถทำงานได้เต็มที่ในการพัฒนาองค์กร ความหมายของ Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากร Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากรหมายถึงการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับความปรารถนาและแรงจูงใจของผู้สมัครงานเพื่อประเมินว่า พวกเขามีคุณสมบัติที่ตรงกับสิ่งที่องค์กรต้องการหรือไม่ โดยการเข้าใจความปรารถนาและแรงจูงใจของผู้สมัคร ช่วยให้องค์กรเลือกพนักงานที่มีความมุ่งมั่น, มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ดี ความสำคัญของ Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากร การใช้ Desire Behavior ในการสรรหาบุคลากรมีความสำคัญดังนี้:

Read More

การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่ดี ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถรักษาพนักงานที่มีความสามารถ, ส่งเสริมการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความสุขในการทำงาน การรู้จักสิ่งที่พนักงานต้องการไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน แต่ยังส่งผลให้พวกเขามีแรงจูงใจในการทำงานและผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้น 1. ความหมายของการเข้าใจความปรารถนาของพนักงาน การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานหมายถึงการฟังและรับรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของพนักงาน โดยไม่จำกัดแค่ในด้านผลตอบแทนทางการเงิน แต่รวมถึงการพัฒนาในสายอาชีพ, ความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว, โอกาสในการเรียนรู้, หรือแม้กระทั่งค่านิยมที่พนักงานให้ความสำคัญในที่ทำงาน ตัวอย่าง: พนักงานบางคนอาจต้องการโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ ในขณะที่บางคนอาจต้องการเวลาที่ยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถดูแลครอบครัวได้ 2. ความสำคัญของการเข้าใจความปรารถนาของพนักงาน การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานมีความสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับความต้องการของพนักงาน ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานและมีแรงจูงใจที่สูงขึ้น ดังนี้ 3. ประโยชน์ของการเข้าใจความปรารถนาของพนักงาน 1. เพิ่มความพึงพอใจและความผูกพันกับองค์กร เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจและตอบสนองความต้องการของพวกเขา พวกเขาจะมีความพึงพอใจในการทำงานสูงขึ้น และมีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการลาออกของพนักงาน และช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความสามารถและทักษะที่มีค่าในองค์กรได้ 2. สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี การเข้าใจความปรารถนาของพนักงานช่วยให้องค์กรสามารถออกแบบสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อความต้องการของพนักงาน เช่น การจัดการเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น

Read More

การใช้ความปรารถนาในการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน บทบาทของ HR ในการพัฒนาและรักษาผู้มีความสามารถ

การใช้ความปรารถนาในการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงาน และสามารถบรรลุผลสำเร็จที่ทั้งพนักงานและองค์กรต้องการ เมื่อพนักงานมีความปรารถนาที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการในชีวิตการทำงาน การทำงานจะกลายเป็นสิ่งที่มีความหมายและมีแรงกระตุ้นที่แรงกล้า ในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน HR (ฝ่ายทรัพยากรบุคคล) มีบทบาทสำคัญในการเข้าใจความปรารถนาและแรงจูงใจของพนักงานแต่ละคน เพื่อออกแบบนโยบายและกิจกรรมที่ช่วยให้พนักงานมุ่งมั่นทำงานและพัฒนาไปตามเส้นทางอาชีพของตนเอง 1. ความปรารถนาและแรงจูงใจ ความปรารถนา (Desire) คือ สิ่งที่พนักงานต้องการจากการทำงาน เช่น การได้รับการยอมรับ, การเติบโตในสายอาชีพ, การได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น หรือการมีความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ความปรารถนาเหล่านี้จะกระตุ้นให้พนักงานทำงานหนักขึ้นและมีความทุ่มเทมากขึ้น แรงจูงใจ (Motivation) คือ สิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้พนักงานลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อบรรลุความปรารถนานั้น ซึ่งอาจมาจากภายในตัวบุคคล (intrinsic motivation) หรือภายนอก (extrinsic motivation) เช่น การได้รับรางวัลหรือการยอมรับจากผู้บริหาร 2. บทบาทของ HR ในการใช้ความปรารถนาเพื่อสร้างแรงจูงใจ

Read More

การบริหารจัดการพนักงานรุ่นใหม่ (Millennials & Gen Z) ในองค์กร

การบริหารจัดการพนักงานรุ่นใหม่ เช่น Millennials และ Gen Z ในองค์กรนั้นต้องใช้วิธีการที่มีความเข้าใจในลักษณะนิสัย, ความคาดหวัง, และวิธีการทำงานที่แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การสื่อสาร, วิธีการฝึกอบรม, การให้ผลตอบแทน, และการสร้างบรรยากาศในการทำงานที่เหมาะสมกับความต้องการของพนักงานในกลุ่มนี้ 1. ลักษณะเฉพาะของพนักงานรุ่นใหม่ (Millennials & Gen Z) Millennials (Gen Y) Millennials หรือ Gen Y คือผู้ที่เกิดในช่วงปี 1981-1996 มักจะเป็นกลุ่มที่เติบโตในยุคของเทคโนโลยีเริ่มต้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน เช่น อินเทอร์เน็ตและมือถือสมาร์ทโฟน ลักษณะเด่นของพวกเขาคือ: Gen Z Gen Z

Read More

การวางแผนกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลในองค์กร

การวางแผนกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคล (Human Resource Strategic Planning) คือกระบวนการที่องค์กรใช้ในการคาดการณ์และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (พนักงาน) ให้มีความเหมาะสมกับทิศทางและเป้าหมายขององค์กรในระยะยาว โดยไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน และความต้องการที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ขั้นตอนในการวางแผนกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคล 1. การวิเคราะห์และประเมินความต้องการในอนาคต (Forecasting Needs) การวิเคราะห์ความต้องการทรัพยากรบุคคลในอนาคตเป็นกระบวนการสำคัญในการวางแผน ซึ่งต้องพิจารณาไม่เพียงแต่จำนวนพนักงานที่ต้องการในแต่ละตำแหน่ง แต่ยังต้องพิจารณาความสามารถและทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานขององค์กรในอนาคต 2. การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีและตลาด เทคโนโลยีมีผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานขององค์กร ดังนั้น การเตรียมทรัพยากรบุคคลให้สามารถปรับตัวและใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ การวางแผนควรพิจารณา: 3. การสร้างและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) วัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคล เพราะวัฒนธรรมที่ดีจะช่วยให้พนักงานมีความพึงพอใจในการทำงาน ส่งผลให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวางแผนทรัพยากรบุคคลในด้านนี้จะรวมถึง: 4.

Read More

วิธีการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงาน

ความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงานหมายถึง ความรู้สึกของพนักงานที่พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมการทำงานและมีความผูกพันทางอารมณ์กับองค์กร ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานและมีความภักดีต่อองค์กรในระยะยาว การสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงานถือเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ที่ต้องใช้กลยุทธ์และแนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีกำลังใจในการทำงานต่อไป ความหมาย วิธีการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงาน วิธีการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงาน: ความสำคัญ การสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงานมีความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งพนักงานและองค์กร เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน การรักษาพนักงานที่มีความสามารถ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ซึ่งสามารถเสริมสร้างผลผลิตและผลลัพธ์ที่ดีสำหรับองค์กรโดยรวม 1. ผลิตภาพและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น 2. การลดอัตราการลาออกและการสูญเสียพนักงาน 3. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง 4. ความพึงพอใจของลูกค้า 5. การส่งเสริมการพัฒนาและนวัตกรรมในองค์กร 6. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริหารและพนักงาน ประโยชน์และข้อดี การสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงานมีผลดีมากมายทั้งในด้านบุคคลและองค์กร เนื่องจากช่วยให้พนักงานรู้สึกมีความสุขและทุ่มเทในการทำงาน ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในทุกด้าน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรโดยรวม นี่คือประโยชน์และข้อดีของการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงาน: 1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 2. ลดอัตราการลาออกของพนักงาน 3. ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในทีมงาน 4.

Read More