HR 5.0 คือแนวคิดในการพัฒนาการจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resources) ที่ผสมผสานการใช้เทคโนโลยีเข้ากับมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการบุคลากร ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การใช้ AI (Artificial Intelligence) และ ข้อมูลทางสถิติ (Data Analytics) ร่วมกับการตัดสินใจที่เกิดจากความเข้าใจในปัจจัยมนุษย์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ใน HR 5.0 จึงไม่ได้เป็นการแทนที่การทำงานของมนุษย์ แต่เป็นการเสริมพลังให้การทำงานของ HR ดีขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำ
ความสำคัญของ HR 5.0 ในการจัดการทรัพยากรบุคคล
1. เพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาด
การนำ AI มาใช้ในกระบวนการ HR ช่วยให้การทำงานของ HR มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การสรรหาพนักงานที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากการสมัครงานและพฤติกรรมของผู้สมัครอย่างละเอียดและแม่นยำ นอกจากนี้ AI ยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กร
ตัวอย่าง:
- AI ในการคัดเลือกพนักงานสามารถช่วยคัดกรองเรซูเม่ (resume screening) และประเมินผลการสัมภาษณ์ได้เร็วขึ้น โดยการใช้โมเดลการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ที่สามารถจับรูปแบบในข้อมูลและประเมินทักษะและความเหมาะสมของผู้สมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ
HR 5.0 ใช้ HR Analytics และ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการทำงาน, ความพึงพอใจของพนักงาน, และข้อมูลการลาออก เพื่อให้การตัดสินใจเกี่ยวกับพนักงานเป็นไปได้ด้วยข้อมูลที่มีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น ช่วยให้ HR สามารถตัดสินใจในการพัฒนาและรักษาพนักงานได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่าง:
- การใช้ People Analytics เพื่อทำนายพฤติกรรมของพนักงาน เช่น การคาดการณ์ว่าใครมีแนวโน้มจะลาออกจากองค์กรก่อนที่พนักงานจะตัดสินใจลาออกจริง ซึ่งช่วยให้ HR สามารถจัดการแผนการรักษาพนักงานได้อย่างทันเวลา
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน
การผสมผสานระหว่าง AI และการทำงานของมนุษย์ช่วยให้การจัดการทรัพยากรมนุษย์สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งสำหรับพนักงานและองค์กร AI สามารถช่วยปรับกระบวนการต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การตอบคำถามเบื้องต้นหรือการจัดการเรื่องขออนุมัติ ต่างๆ ทำให้พนักงานสามารถใช้เวลาของตัวเองไปกับงานที่สำคัญมากกว่า ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจในการทำงาน
ตัวอย่าง:
- การใช้ Chatbots ในการตอบคำถามของพนักงานเกี่ยวกับนโยบายของบริษัท, การขออนุมัติลางาน หรือกระบวนการต่างๆ ช่วยให้ HR สามารถให้บริการได้เร็วขึ้นและลดภาระงานของ HR ในการตอบคำถามซ้ำๆ
4. ช่วยในการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงาน
การใช้ AI สามารถช่วยแนะนำหลักสูตรการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับทักษะและความต้องการของพนักงานได้โดยอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของพนักงานจะช่วยให้ AI ทราบถึงช่องว่างในทักษะและแนะนำโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสม นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยติดตามผลการฝึกอบรมและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของพนักงานได้
ตัวอย่าง:
- Accenture ใช้ AI ในการแนะนำหลักสูตรฝึกอบรมให้กับพนักงาน โดยระบบจะวิเคราะห์ทักษะที่พนักงานต้องการพัฒนาและแนะนำหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา เช่น ทักษะในการใช้เครื่องมือใหม่ๆ หรือทักษะในการพัฒนาความเป็นผู้นำ
HR 5.0 การผสมผสานเทคโนโลยี AI
1. การใช้ AI ในกระบวนการสรรหาพนักงาน (Recruitment)
การใช้ AI ในกระบวนการสรรหาพนักงานช่วยให้การเลือกสรรบุคลากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากประวัติการสมัครงาน, ทักษะ, และประสบการณ์ของผู้สมัครอย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยอคติจากมนุษย์ เช่น การเลือกคนที่มีเพียงการศึกษาเหมือนกันหรือประสบการณ์ที่คล้ายกันเท่านั้น
ตัวอย่าง:
- บริษัท Unilever ใช้ AI ในการคัดเลือกผู้สมัครโดยใช้ AI-powered assessments ที่วิเคราะห์คำตอบจากการทดสอบและกิจกรรมต่างๆ ของผู้สมัคร เช่น การใช้ video interviewing software ที่สามารถประเมินการตอบสนองในเวลาและรูปแบบการสื่อสารต่างๆ โดยไม่ต้องมีการสัมภาษณ์โดยมนุษย์ในขั้นตอนแรก ทำให้สามารถประหยัดเวลาและเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกผู้สมัคร
2. การใช้ AI ในการประเมินผลการทำงาน (Performance Management)
AI สามารถนำมาช่วยในการประเมินผลการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบที่รวบรวมการทำงานในแต่ละวัน เช่น เวลาที่ใช้ในแต่ละโปรเจกต์ ความสำเร็จในการทำงาน และผลตอบรับจากเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น ทำให้ HR สามารถได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและไม่มีอคติ
ตัวอย่าง:
- IBM ใช้ AI tools ในการประเมินผลการทำงานของพนักงาน โดย AI จะเก็บข้อมูลจากการทำงานประจำวัน เช่น อีเมล, การประชุม, หรือความสำเร็จในงานต่างๆ และใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการประเมินประสิทธิภาพของพนักงาน ทำให้สามารถปรับปรุงกระบวนการประเมินผลได้ดีขึ้น และช่วยให้ HR สามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์มากขึ้นกับพนักงาน
3. การพัฒนาศักยภาพของพนักงานด้วย AI และการฝึกอบรม (Training and Development)
AI สามารถช่วยในการพัฒนาทักษะของพนักงานได้โดยการแนะนำโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมตามทักษะและความสามารถของแต่ละบุคคล ข้อมูลจากการทำงานจริงจะช่วยให้ AI สามารถระบุช่องว่างในทักษะของพนักงานได้อย่างแม่นยำ และแนะนำการเรียนรู้ที่เหมาะสม
ตัวอย่าง:
- บริษัท Accenture ใช้ AI-powered learning platforms ที่สามารถแนะนำหลักสูตรการฝึกอบรมที่ตรงกับทักษะที่พนักงานต้องการพัฒนา หรือช่วยให้พนักงานเรียนรู้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสไตล์การเรียนรู้ของพวกเขา เช่น บางคนอาจจะชอบการเรียนออนไลน์ในรูปแบบวิดีโอ ในขณะที่บางคนอาจจะชอบการฝึกปฏิบัติ
4. การรักษาพนักงานและการวิเคราะห์ข้อมูล (Employee Retention & HR Analytics)
AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากพนักงานที่อาจจะลาออกหรือมีแนวโน้มที่จะออกจากองค์กร ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรม และข้อมูลต่างๆ เช่น ความพึงพอใจในการทำงาน, การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ, และข้อมูลทางการเงิน (เช่น เงินเดือน) โดย AI สามารถให้คำแนะนำว่าองค์กรควรปรับปรุงสิ่งใดเพื่อรักษาพนักงานไว้ได้
ตัวอย่าง:
- Google ใช้ People Analytics และ AI ในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน เช่น ข้อมูลการทำงาน, การมีส่วนร่วม, และความคิดเห็นจากพนักงาน เพื่อทำนายว่าจะมีพนักงานคนใดลาออกในอนาคต โดยใช้โมเดล AI เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถทำแผนรักษาพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การจัดการความผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการสื่อสารระหว่างมนุษย์ (Human-Tech Collaboration)
แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่การตัดสินใจบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก และมนุษย์ต้องการการตัดสินใจจากมนุษย์ การใช้ HR 5.0 จึงต้องมุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยี และความเข้าใจในด้านมนุษย์ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานสามารถช่วยให้ HR มีข้อมูลที่ครบถ้วนมากขึ้น แต่การตัดสินใจในการให้รางวัลหรือการส่งเสริมพนักงานจะต้องพิจารณาในบริบทของวัฒนธรรมองค์กร และการประเมินทัศนคติของพนักงาน
ตัวอย่าง:
- บริษัท SAP ใช้ AI ในการช่วย HR ในการวิเคราะห์ข้อมูลของพนักงานเพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มต่างๆ เช่น แนวโน้มการลาออก การพัฒนา และการฝึกอบรม แต่การตัดสินใจในการเสริมสร้างทีม หรือการให้รางวัลกับพนักงานจะทำผ่านการประชุมกับทีม HR โดยใช้ข้อมูลที่ AI ให้มาช่วยในการตัดสินใจ
สรุป
HR 5.0 การผสมผสานเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีขั้นสูงกับการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่แม่นยำเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการสรรหา การพัฒนาศักยภาพพนักงาน การรักษาพนักงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล แต่การตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ยังคงต้องการการตัดสินใจจากผู้บริหารที่มีความเข้าใจในบริบทขององค์กรและพนักงาน
บทความอื่นๆ เพิ่มเติมของ GetHR