ความหมายของ Engagement Survey และเหตุผลที่ต้องทำ
Engagement Survey คือแบบสำรวจที่ออกแบบมาเพื่อวัดระดับ “ความผูกพัน” หรือ Engagement ของพนักงานต่อองค์กร ซึ่งไม่ใช่แค่การวัดความพึงพอใจทั่วไป แต่เป็นการวัดว่าพนักงานมีความมุ่งมั่น แรงจูงใจ และความรู้สึกเป็นเจ้าของต่อองค์กรเพียงใด เหตุผลที่ต้องทำแบบสำรวจนี้ก็เพราะ Engagement มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน การรักษาพนักงาน และความสำเร็จของธุรกิจ องค์กรที่มีพนักงานมี Engagement สูงมักมีผลประกอบการที่ดีกว่า อัตราการลาออกต่ำกว่า และนวัตกรรมเกิดขึ้นมากกว่า

ความแตกต่างระหว่าง Engagement Survey กับ Satisfaction Survey
หลายคนอาจสับสนระหว่าง Engagement Survey กับ Satisfaction Survey ซึ่งแม้จะมีความคล้ายกัน แต่จุดเน้นต่างกันอย่างชัดเจน Satisfaction Survey วัดเพียงความพึงพอใจของพนักงาน เช่น ความพอใจกับสวัสดิการ สภาพแวดล้อม หรือหัวหน้างาน ขณะที่ Engagement Survey เจาะลึกไปถึงแรงจูงใจ ความรู้สึกมีส่วนร่วม และความตั้งใจที่จะอยู่กับองค์กรในระยะยาว กล่าวคือ พนักงานอาจพึงพอใจกับงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีความผูกพันและพร้อมทุ่มเทเต็มที่
องค์ประกอบของแบบสอบถามที่ดี
การทำ Engagement Survey ให้ได้ผล ต้องมีองค์ประกอบที่ครอบคลุมและออกแบบอย่างรอบคอบ คำถามควรสะท้อนทั้งมิติด้านอารมณ์ (เช่น ความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานในองค์กร) มิติด้านเหตุผล (เช่น ความชัดเจนของบทบาทหน้าที่) และมิติด้านพฤติกรรม (เช่น ความเต็มใจที่จะทุ่มเทเกินความคาดหวัง) นอกจากนี้ แบบสอบถามควรมีความกระชับ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และมีรูปแบบการให้คะแนนที่ชัดเจน เช่น Likert Scale เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ

การวิเคราะห์ผลและการทำ Action Plan
เมื่อได้ผลลัพธ์จาก Engagement Survey แล้ว ขั้นตอนสำคัญคือการวิเคราะห์และแปลงข้อมูลเป็นแผนปฏิบัติ (Action Plan) การวิเคราะห์ควรมองหาจุดแข็งและจุดอ่อนในแต่ละมิติ พร้อมระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อ Engagement มากที่สุด เช่น หากคะแนนด้านโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพต่ำ องค์กรอาจต้องวางแผนปรับปรุงเส้นทางการพัฒนาอาชีพให้ชัดเจนขึ้น การทำ Action Plan ที่ชัดเจนและสื่อสารให้พนักงานรับรู้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าความคิดเห็นของพวกเขามีคุณค่าและถูกนำไปใช้จริง
ตัวอย่าง KPI ที่ใช้ติดตามความผูกพัน
เพื่อให้การวัด Engagement มีความต่อเนื่อง องค์กรควรกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ที่สะท้อนถึงความผูกพันได้จริง เช่น อัตราการมีส่วนร่วมในกิจกรรมองค์กร อัตราการเข้าร่วมอบรม อัตราการลาออกโดยสมัครใจ หรือคะแนน Engagement เฉลี่ยจากแบบสอบถาม การติดตาม KPI เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้องค์กรเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับกลยุทธ์การบริหารบุคลากรให้สอดคล้องกับสถานการณ์