หากย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน “ฝ่ายบุคคล” หรือ HR Department ในองค์กรไทยส่วนใหญ่ยังถูกมองว่าเป็นเพียงหน่วยงานสนับสนุน ทำหน้าที่เอกสาร รับสมัครพนักงาน คิดเงินเดือน และเก็บแฟ้มประวัติ แต่ในปัจจุบัน บทบาทของ HR ได้ขยายกลายเป็น “กลไกเชิงกลยุทธ์” ที่เชื่อมโยงเป้าหมายขององค์กรเข้ากับศักยภาพของคนอย่างแท้จริง
เมื่อโลกของการทำงานเปลี่ยนเร็ว องค์กรต้องการโครงสร้าง HR ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ “จัดการคน” แต่ต้อง “วิเคราะห์ข้อมูลคน” เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจ เช่น การใช้ข้อมูล KPI, Engagement, หรือ Turnover Rate เพื่อวางแผนเชิงรุก ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนเดิม

โครงสร้างฝ่ายบุคคลแบบดั้งเดิมเป็นอย่างไร
ในอดีต โครงสร้าง HR ส่วนใหญ่ถูกจัดเรียงตาม “หน้าที่งานหลัก” ที่ต้องทำในแต่ละเดือน ตัวอย่างเช่น
- ฝ่ายสรรหา (Recruitment)
- ดูแลประกาศรับสมัคร สัมภาษณ์ และคัดเลือกพนักงาน
- จัดทำสัญญาจ้างและเอกสารเริ่มงาน
- ฝ่ายบริหารงานบุคคล (Personnel / Admin)
- ดูแลทะเบียนประวัติพนักงาน การลา การมาสาย การเลิกจ้าง
- ประสานงานสวัสดิการ พ.ร.บ. ประกันสังคม ภาษี
- ฝ่ายฝึกอบรมและพัฒนา (Training & Development)
- จัดทำแผนฝึกอบรมประจำปี
- พัฒนา Competency Model
- ฝ่ายค่าตอบแทนและผลตอบแทน (Compensation & Benefits)
- ดูแลโครงสร้างเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการ
- ประสานการประเมินผลงานประจำปี
โครงสร้างแบบนี้มีข้อดีคือเข้าใจง่ายและเหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก แต่เมื่อองค์กรเติบโตขึ้น ข้อมูลมากขึ้น และต้องการวัดผลทุกอย่างได้จริง โครงสร้างนี้เริ่มกลายเป็น “ไซโล” (Silo) ที่แต่ละแผนกทำงานแยกกัน ไม่เห็นภาพรวมของทั้งองค์กร
โครงสร้าง HR ยุคใหม่: จาก Silo สู่การบูรณาการ
องค์กรยุคใหม่ต้องการโครงสร้าง HR ที่ “บูรณาการ” (Integrated HR Structure) มากขึ้น เพื่อให้การบริหารคนสอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience)
ตัวอย่างโครงสร้าง HR แบบใหม่
- HR Strategy & Analytics
ทีมวิเคราะห์ข้อมูลคน ทำ Dashboard และเชื่อมโยงกับ KPI องค์กร - Talent Acquisition & Employer Branding
ไม่ใช่แค่สรรหา แต่รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์องค์กรให้คนอยากร่วมงาน - Learning & Development (L&D)
พัฒนา Soft Skill และ Upskill ให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ - Performance & Reward Management
ดูแลการประเมินผล การตั้ง KPI และระบบรางวัล - Employee Engagement & Culture
วัดความผูกพัน พัฒนาองค์กรให้น่าทำงานและลดการลาออก - Digital HR Operation
นำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการเอกสาร การลางาน การประเมินผล
จะเห็นได้ว่าจากเดิมที่เน้น “งานเอกสาร” ปัจจุบัน HR ต้องขยับไปสู่ “งานวิเคราะห์และกลยุทธ์” ซึ่งต้องมีเครื่องมือช่วย เช่น HR Dashboard, KPI Tracker หรือระบบประเมินผลออนไลน์
ปัญหาของโครงสร้าง HR แบบเดิม
- งานซ้ำซ้อนและขาดข้อมูลกลาง
เอกสาร HR กระจายอยู่หลายที่ เช่น Excel, Email, และเอกสารกระดาษ ทำให้ติดตามข้อมูลย้อนหลังลำบาก - ขาดระบบวัดผลและรายงานที่ชัดเจน
ฝ่ายบริหารมักต้องรอรายงานจาก HR หลายวันเพื่อตัดสินใจ เช่น อัตราการลาออก หรือคะแนนการประเมิน - ใช้เวลามากกับงานเอกสาร
งานอย่างการกรอกแบบฟอร์มลา บันทึกเวลา หรือคำนวณคะแนน ใช้เวลามากและเกิดข้อผิดพลาดบ่อย - ขาดภาพรวมการบริหารคนในองค์กร
แต่ละหน่วย HR ทำงานของตัวเอง ไม่เห็นภาพรวม เช่น ข้อมูล Training ไม่เชื่อมกับผลการประเมิน
แนวทางเปลี่ยนผ่านสู่ “โครงสร้าง HR Digital”
การเปลี่ยนจาก HR แบบดั้งเดิมไปสู่ Digital HR ไม่ใช่แค่การซื้อซอฟต์แวร์ใหม่ แต่เป็น “การปรับแนวคิดและโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งระบบ” โดยมี 4 ขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. เริ่มจากการเก็บข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นระบบ
ทุกระบบ HR ที่ดีเริ่มจาก “ฐานข้อมูลกลาง” ที่มีข้อมูลพนักงานครบ เช่น ประวัติ การฝึกอบรม KPI ผลการประเมิน และข้อมูลการลาออก ข้อมูลนี้จะกลายเป็นฐานสำหรับวิเคราะห์ในอนาคต
2. ใช้ Dashboard เป็นศูนย์กลางข้อมูลคน
Dashboard จะช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมได้ทันที เช่น อัตราการลาออก อัตราการขาดงาน หรือ Performance ของแต่ละฝ่าย
ตัวอย่างเช่น หากพบว่าฝ่ายใดมี Turnover Rate สูงผิดปกติ สามารถตรวจสอบข้อมูลประกอบ เช่น คะแนน Engagement หรือตารางฝึกอบรม เพื่อหาสาเหตุได้ทันที
3. เชื่อมระบบประเมินผลและ KPI เข้าด้วยกัน
องค์กรส่วนใหญ่ประเมินผลงานปีละครั้ง แต่ในยุคใหม่ การติดตามควรเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส ระบบ Digital HR จะช่วยเก็บข้อมูล KPI แบบเรียลไทม์และแสดงผลบน Dashboard ทำให้เห็นแนวโน้มก่อนปัญหาเกิด
4. สร้างบทบาทใหม่ในทีม HR
เมื่อใช้ระบบดิจิทัลแล้ว บทบาทของ HR ควรขยับจาก “ผู้ทำเอกสาร” ไปเป็น “Data Analyst” หรือ “People Strategist”
เช่น แทนที่จะใช้เวลานับวันลา HR สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการลาเพื่อปรับนโยบาย Work-Life Balance ได้
ตัวอย่างโครงสร้าง HR Digital ในองค์กรขนาดกลาง
| หน่วยงาน | หน้าที่หลัก | เครื่องมือที่ใช้ |
|---|---|---|
| HR Strategy & Analytics | วิเคราะห์ข้อมูลคน วางแผนกำลังคน | HR Dashboard, KPI Tracker |
| Recruitment & Branding | สรรหา สร้างภาพลักษณ์องค์กร | Job Portal, Social Media |
| L&D | วางแผนพัฒนาและติดตามการอบรม | Learning Management System (LMS) |
| Performance & Reward | จัดการประเมินผลและรางวัล | Performance App, EsteeMATE KPI |
| Employee Engagement | วัดความผูกพันและวิเคราะห์พฤติกรรม | Engagement Survey, DISC Tools |
| HR Operations | งานทะเบียน ลา จัดทำรายงาน | HRM System, Attendance App |
เทรนด์ที่กำลังมาแรงใน HR Digital ปี 2025
- AI-Driven HR Analytics
ระบบวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานโดยใช้ AI คาดการณ์แนวโน้มลาออก ประเมินความเสี่ยง และแนะนำแผนพัฒนา - Employee Experience Platform (EXP)
รวมการสื่อสาร การประเมินผล และ Engagement ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว - Self-Service HR App
พนักงานสามารถลางาน อัปเดตข้อมูลส่วนตัว หรือดู KPI ผ่านมือถือได้เอง - Integration กับระบบอื่นในองค์กร
เช่น เชื่อม HR Dashboard กับระบบบัญชี หรือ CRM เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์เชิงธุรกิจ - Data Privacy & PDPA Compliance
ระบบ HR Digital ต้องสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
ตัวอย่างการนำเอาไปใช้: บริษัทบริการที่เปลี่ยนจาก Excel สู่ HR Dashboard
ถ้าคุณเป็นบริษัทบริการขนาด 200 คน เดิมใช้ Excel ในการบันทึกการลาและคำนวณคะแนนประเมินพนักงาน ใช้เวลารวมกว่า 10 ชั่วโมงต่อเดือน
หลังเปลี่ยนมาใช้ระบบ Dashboard จาก EsteeMATE ทีม HR สามารถดึงรายงานได้ทันที เช่น
- อัตราการขาดงานรายแผนก
- เปรียบเทียบ KPI รายเดือนของแต่ละพนักงาน
- สรุปคะแนนประเมินพร้อมกราฟแนวโน้ม
ผลลัพธ์คือเวลาในการจัดทำรายงานลดลงได้เป็นอย่างมาก และผู้บริหารสามารถเห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
สรุปว่าโครงสร้างฝ่ายบุคคลไม่ควรหยุดอยู่ที่ “งานเอกสาร”
โครงสร้าง HR ที่ดีไม่ใช่แค่มีตำแหน่งครบ แต่ต้อง “ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลจริง” เมื่อฝ่ายบุคคลมีระบบจัดเก็บ วิเคราะห์ และรายงานผลที่ชัดเจน จะทำให้การบริหารคนกลายเป็นเรื่องเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่ภาระ
องค์กรที่เริ่มจากการปรับโครงสร้าง HR ให้เป็น Digital จะได้เปรียบทั้งในด้านเวลา ความแม่นยำ และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ทั้งพนักงานและผู้บริหาร
อยากเปลี่ยนโครงสร้าง HR ของคุณให้มีระบบมากขึ้น? ลองใช้ EsteeMATE เพื่อสร้าง Dashboard และแผนงานฝ่ายบุคคลแบบครบจบในที่เดียว